หลานทาสยาหลอน ปังตอฟันคอตาดับ ฉุนโดนว่าไม่ทำมาหากิน
หลานทรพี เสพยาจนหลอน ฉุนโดนตาด่าไม่ทำมาหากิน คว้าปังตอฟั
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ขณะที่ พ.ต.ท.นพ วงศ์พุฒิ สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งเหตุหลานชายหลอนยา ใช้มีดบังตอฟันคอ ตามใบหน้า และศีรษะ เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน บ.เกิ้งน้อย ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ส่วนหลานชายหลังก่อเหตุได้เดิ
ที่เกิดเหตุเปิดบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ พบศพนายใส สุกวิสัย อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นในห้
โดยมีชาวบ้านและญาติพี่น้องได้
นางแตงอ่อน สุกวิสัย อายุ 77 ปี ภรรยาผู้ตายและยายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกลางดึกเมื่อคืนนี้ หลานชายได้เดินไปเดินมา และเดินมาขอยาเส้นไปสูบ ทำให้หมาเห่าผู้ตายไม่ได้นอน ผู้ตายเลยต่อว่าเดินทำไปทั้งวันทั้งคืน หลานก็บอกว่าเดินเฉย ๆ กระทั่งเวลา 04.30 น. ตนได้ตื่นขึ้นมานึ่งข้าวและทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ส่วนคนตายนอนอยู่ห้องโถงชั้นล่าง นายต้อมได้เดินมาหาผู้ตาย เพื่อมาขอยาเส้นในตะกร้าหมากของตนอีก และได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงมีฟันฉับ ๆ หลายครั้ง และเห็นนายต้อมเดินถือมีดปังตอเปื้อนเลือดกลับไปบ้าน ที่อยู่ด้านหลังบ้านของตน จึงถามหลานว่าทำอะไรตา แต่หลานไม่ตอบ เดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตนเดินเข้าไปในบ้านก็พบว่าตาถูกฟันนอนจมกองเลือดแล้ว
จากการสอบสวนนายชนะศักดิ์ หรือต้อม ให้การรับสารภาพว่า ตนลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้าน ส่วนพ่อแม่ของตนก็ยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อเช้านี้ตนได้ไปเอากับข้าวมากินเหมือนทุกวัน หลังจากกินเสร็จกลับไปเอายาเส้นกับตา ซึ่งตาก็ได้ด่าตน ตาได้ไล่ตนออกมาจากบ้าน ว่าไม่หาการหางานทำ เดินทั้งคืนจนไม่ได้หลับนอน ทำให้ตนโมโหสุดขีด จึงได้ไปเอามีดปังตอที่อยู่ในครัวหน้าบ้านของตา เข้ามาฟันแบบไม่ยั้ง จนตายแล้วก็เดินกลับบ้าน โดยที่ไม่เคยมีโกรธเคืองกับตามาก่อน
