สะใภ้ปิดปากเงียบ ปม “น้ำเขียวมรณะ” เร่งหาเบาะแสผ่านบาร์โค้ด
ตำรวจเรียกสอบอดีตลูกสะใภ้ ครอบครัว “น้ำเขียวมรณะ” ยังปิดปากเงียบ เร่งหาเบาะแสคนร้ายผ่านบาร์โค้ดน้ำอัดลม
จากกรณีนางสาริณี ระดาเสริฐ อายุ 54 ปี ดื่มน้ำอัดลมสีเขียว ที่ไม่รู้ว่าผู้ใดนำวางไว้หน้าบ้าน 2 ขวด ทำให้น้ำลายฟูมปากและเสียชีวิต ส่วนนายศุภชัยอายุ 37 ปี ลูกชายดื่มน้ำเขียวขวดเดียวกันแม่ 1 อึก รอดหวุดหวิด
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดี ได้แบ่งเป็น 2 ประเด็น ซึ่งการเสียชีวิตเป็นแบบผิดธรรมชาติ คือป่วยโรคประจำตัวแล้วเสียชีวิตเอง หรือการถูกวางยา เนื่องจากมีน้ำลายฟูมปาก ซึ่งสันนิฐานว่าถูกวางยาหรือไม่ เพราะต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์อีกครั้ง ในการยืนยันว่าเสียชีวิตจากโรคประจำตัวหรือถูกวางยาพิษ
“โดยทางตำรวจสันนิษฐานเบื้องตนคือการถูกวางยา จึงได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ ทางชุดสืบสวนได้เข้าหาสาเหตุ ซึ่งได้วางไว้ 3 สาเหตุ คือ 1.การทะเลาะวิวาทในครอบครัวกันเอง เพราะครอบครัวนี้อยู่กันหลายคนและมีปัญหาในครอบครัว 2.ปัญหาบ้านข้างเคียงระเวกแถวนั้น เพราะบ้านนี้ย้ายออกมาจากชุมชน และมีประวัติลักเล็กขโมยน้อย ซึ่งมีการเพ่งเล็งมาบ้านหลังนี้ และประเด็นที่ 3. คืออื่นๆ ซึ่งยังไม่ได้ตัดทิ้ง”
รอง.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยอีกว่า แนวทางการสืบสวนนั้น ความคืบหน้านั้นทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ หาที่มาของขวดน้ำอัดลมว่ามาจากที่ไหน เพราะขวดน้ำอัดลม มีการเปิด แต่การเปิดออกนั้นไม่ใช่การเปิดใช้มาแล้ว เปิดใหม่แล้วปิดเอาไว้ และถุงที่ใส่ก็ใหม่แสดงว่าพึ่งซื้อมาแล้วเอามาวางไว้ ในส่วนที่ว่าผู้ตายถึงมาดื่มกินทั้งๆที่ผู้ตายไม่เคยที่จะดื่มน้ำอัดลม แล้วมาดื่มกิน ทางชุดสืบสวนจึงตรวจสอบร้านค้าในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบหมายเลขบาร์โค้ดข้างขวด ในการติดตามตัวผู้มาซื้อก่อน จนไปถึงตัวคนร้าย
“ส่วนกล้องวงจรปิด ก็มีความลำบากเพราะบ้านคนตายอยู่นอกเขตชุมชนต่างอำเภอมีกล้องน้อยมาก และมีการเรียกพยานบุคคลมาสอบหลายปากแล้ว ช่วงระหว่างนี้ได้รอผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสารพิษในกระเพาะอาหาร ในเลือด และขวดน้ำทั้ง 2 ขวด ว่ามีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ว่าตรงกับใครหรือไม่ และจำทำการสืบสวนและดำเนินการตามขั้นตอน ในส่วนผู้ต้องสงสัยยังไม่มีเพิ่มเติม โดยทางตำรวจขอเวลาในการทำงานสืบสวน และผลตรวจต่างๆเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป”
